รายวิชาพระพุทธศาสนา ม.5 เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศานา
ความหมายของศาสนา
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542
ได้ให้คำนิยามของคำว่า ศาสนา ไว้ว่า “ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก
คือ แสดงกำเนิดและความสิ้นสุดของโลก เป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง
แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง
พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทำตามความเห็นหรือตามคำสั่งสอนในความเชื่อถือนั้น ๆ “ศาสนาจึงมีความหมายในลักษณะต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “Religion” คำในภษาละตินว่า “Religio”
แปลว่า “สัมพันธ์” หรือ “ผูกพัน” ซึ่งหมายถึง “ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า”
(Man and God) หรือ “ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า”
(Man and Gods) ด้วยการมอบศรัทธษบูชาพระเจ้าหรือเทพเจ้าผู้มีอำนาจเหนือตน
และความเคารพยำเกรงศรัทธา
2. ศาสนามาจากศัพท์เดิมในภาษาสันสฤกตว่า “ศาสน”
ตรงกับคำในภาษาบาลีว่า “สาสน” แปลว่า “คำสั่งสอน”
หรือ “การปกครอง” โดยมีความหมายตามลำดับ
ดังต่อไปนี้
2.1 คำสั่งสอน แยกได้เป็น “คำสั่ง” อันหมายถึงข้อห้ามทำความชั่วที่เรียกว่า
ศีลหรือวินัย และเป็น “คำสอน” อันหมายถึงคำแนะนำให้ทำความดีที่เรียกว่า
ธรรม เมื่อรวม “คำสั่ง” และ “คำสอน” เข้าด้วยกัน จึงหมายถึง ศีลธรรม นั่นคือ
มีทั้งข้อห้ามทำความชั่วและคำแนะนำให้ทำความดี
ศาสนาจึงหมายถึง
ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก คือแสดงกําเนิดและความสิ้นสุดของโลกเป็นต้น
อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง
แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง
พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทําตามความเห็นหรือตามคําสั่งสอนในความเชื่อถือนั้น ๆ
องค์ประกอบของศาสนา
ศาสนา มีองค์ประกอบที่สำคัญ 6 ประการ ดังนี้
1. ศาสดา คือ ผู้ก่อตั้ง หรือผู้ประกาศศาสนา เช่น
พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาของศาสนาพุทธ พระนบี
มุฮัมมัด เป็นศาสดาของศาสนาอิสลาม เป็นต้น
2. ศาสนาธรรม คัมภีร์ หรือหลักคำสอน
คำสอนของศาสดาถูกรวบรวมไว้เป็นหมดหมู่และจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น
คัมภีร์พระไตรปิฎกของศาสนาพุทธ และคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ เป็นต้น
ศาสนาทุกศาสนาย่อมมีหลักคำสอนของตน โดยมีจุดมุ่งหมายให้ศาสนิกชนเป็นคนดี
และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติสุข
3. ศาสนบุคคล
ทุกศาสนาย่อมมีบุคคลทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดศาสนาให้ยั่งยืน เช่น ศาสนาพุทธมีภิกษุ
สามเณร และพุทธศาสนิกชน ศาสนาอิสลาม ไม่มีนักบวชเหมือนศาสนาอื่น ๆ แต่มี “อิหม่าม” เป็นผู้นำในการประกอบศาสนกิจ
และมีศาสนิกชนหรือประชาชนผู้นับถือที่เรียกว่า “มุสลิม”
เป็นต้น
4. ศาสนพิธี พิธีกรรมทางศาสนาส่วนใหญ่
เน้นการกระทำให้มีบรรยากาศของความศักดิ์สิทธิ์
เพื่อให้ผู้คนเกิดความเชื่อถือเลื่อมในศรัทธา เช่น พิธีสวดมนต์ไหว้พระของชาวพุทธ
หรือการทำละหมาดของชาวมุสลิม เป็นต้น
5. ศาสนวัตถุ ศาสนาส่วนใหญ่มีสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายของศาสนา
เพื่อสื่อสารให้ ศาสนิกชนพวกเดียวกันเข้าใจตรงกัน เช่น
ศาสนาคริสต์มีสัญลักษณ์เป็นรูปไม้กางเขน
ศาสนาพุทธมีสัญลักษณ์เป็นธรรมจักรและกวางหมอบ (หรือแม้แต่พระพุทธรูป
เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าหมายถึงสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธ)
6. ศาสนสถาน เป็นสถานที่ที่ศาสนิกชนมาชุมนุมปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาร่วมกัน
หรือเผยแผ่หลักคำ สอน เช่นวัดในศาสนาพุทธ โบสถ์ในศาสนาคริสต์
และมัสยิดในศาสนาอิสลาม เป็นต้น
ประเภทของศาสนา
1. เทวนิยม เชื่อว่ามีพระเจ้า
และนับถือพระเจ้าซึ่งพระเจ้านั้นเป็นทั้งผู้สร้างและกำหนดสรรพสิ่งบนโลกมนุษย์โดย ที่ศาสนเทวนิยมยังสามารถจำแนกได้อีก
2 ประเภท ดังนี้
1.1
เอกเทวนิยม
เป็นศาสนาที่นับถือพระเจ้าองค์เดียว ได้แก่ ยูดาย คริสต์ อิสลาม ซิกข์
เป็นต้น
1.2
พหุเทวนิยม เป็นศาสนาที่นับถือพระเจ้าหลายองค์
เช่น ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
2. อเทวนิยม
ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า และเชื่อว่าทุกสิ่งนั้น ถ้าไม่เกิดจาก มนุษย์สร้าง
ก็จะเป็น ธรรมชาติที่สร้างขึ้นม และเชื่อมั่นในศักยภาพของ มนุษย์ เช่น พุทธ เชน
เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น